ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่ กันนะ ?

        ในปัจจุบันนี้ บ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นความฝันของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ และยังเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกถึงความประสบความสำเร็จของตัวบุคคลนั้นได้อีกด้วย ซึ่งการที่บ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นได้เป็นความฝันของใครหลายๆคนเพราะว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้เริ่มวาดฝันไว้เกี่ยวกับอนาคต สิ่งหนึ่งที่เรามักจะวาดหรือคิดลงไปด้วยเสมอก็คือการมีบ้านสักหลังหรือมีที่พักอาศัยดีๆสักที่นะ และหลังจากนั้นรายละเอียดอื่นๆอย่างเช่นครอบครัว รถ สัตว์เลี้ยงและอื่นๆอีกมากมายจะตามมาทีหลัง และในปัจจุบันนี้ด้วยความที่ว่าบ้านแต่ละหลังนั้น ก็มีราคาไม่น้อยเลยล่ะ โดยในยุคนี้ด้วยที่บ้านแต่ละหลังนั้นมีราคาเริ่มต้นโดยประมาณที่หนึ่งล้านบาท จึงทำให้บ้านหรือที่อยู่อาศัยก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสำเร็จในเรื่องของการทำงาน
เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทางสถาบันการเงินต่างๆโดยเฉพาะทางธนาคาร ได้มีนโยบายสินเชื่อขอกู้ซื้อบ้าน กู้เงินเพื่อที่จะเอาเงินส่วนนั้นไปทำสิ่งต่างๆ โดยมาพร้อมกับเงื่อนไขที่แตกต่างกันและคนทุกคนที่ทำเรื่องกู้เงินเพื่อขอซื้อบ้านนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถกู้ได้เท่ากันได้ทุกคน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทางธนาคารมักจะตรวจดูและพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรกเลยก็คือความสามารถในการหาเงิน ยิ่งใครที่มีเงินเดือนที่มาก มีเงินเดือนที่สูง นั่นก็หมายความว่าทางธนาคารจะเปิดให้กู้ในวงเงินที่สูงขึ้น แต่ถ้าหากใครที่มีเงินเดือนน้อย มีเงินเดือนไม่มากเท่าไหร่ ทางธนาคารก็จะเปิดให้กู้ในวางเงินที่ต่ำ และการกู้ธนาคารก็จะมีเงื่อนไขง่ายๆในการกู้คร่าวๆดังนี้

วงเงินที่เราสามารถกู้ได้

  • สำหรับบ้านธรรมดาทั่วไป เราสามารถขอกู้ได้ถึง 85% ของราคาที่ทำการประเมิน และ ขอกู้ได้ไม่เกิน 85% ของราคาซื้อขาย แต่สำหรับในส่วนของอาคารพาณิชย์ เราจะสามารถกู้สูงสุดได้ไม่เกิน 75% ของราคาประเมิน และก็ไม่เกิน 75% ของราคาซื้อขาย
  • สามารถกู้ได้โดยคิดจากรายได้ที่มี โดยคิดเป็นประมาณไม่เกิน 40 เท่าของเงินเดือนผู้กู้ 15 เท่าของรายได้อื่นๆ และสำหรับคนที่ประกอบอาชีพอิสระ ก็จะสามารถขอกู้ได้ไม่เกิน 40 เท่าของเงินเดือนโดยประมาณนี้

ระยะเวลาการกู้สูงสุด

โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีระยะเวลาสัญญาการกู้ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป และก็ไม่เกิน 30 ปี โดยมีข้อแม้ว่าอายุของผู้กู้บวกกับระยะเวลาทำสัญญากู้ จะต้องไม่เกิน 70 ปีนะ ถึงจะสามารถกู้ได้
ซึ่งในการคำนวณขอกู้เงินโดยคิดจากราคาประมาณทั้งบ้านหรือที่พักอยู่อาศัยกับอาคารพาณิชย์ ไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่เพราะว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างตายตัว แต่สำหรับการขอกู้ที่คิดจากรายได้เป็นเกณฑ์นั้น ถึงแม้ว่าจะไม่เกิน 40 เท่าจากรายได้ที่เราได้ก็จริง แต่สำหรับใครที่ต้องการความแม่นยำ ต้องการความถูกต้องมากยิ่งขึ้น เราก็มีเทคนิคการคิดอย่างง่ายๆดังนี้

ปริมาณเงินเดือนที่สามารถชำระได้ต่อเดือน = เงินเดือนที่เราได้รับ x DSR

ซึ่ง DSR คือ ภาระหนี้ทั้งหมดหารด้วยรายได้สุทธิ
โดยในแต่ละธนาคารจะไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้าหากว่าเงินเดือนของเราเยอะ ค่า DSR ก็จะถูกปรับขึ้นเพิ่มด้วยนะ แต่สามารถใช้การประมาณคร่าวๆได้ประมาณ 40% และ

วงเงินที่เราสามารถกู้ได้ =  (เงินที่สามารถชำระได้ต่อเดือน – ภาระผ่อนอื่นๆ)  x  150

เราสามารถยกตัวอย่างคร่าวๆได้ดังนี้
  • คิดที่เงินเดือน 30,000 และต้องส่งรถอีกเดือนละ 5,000 บาทต่อเดือน
  • คำนวณเงินที่เราสามารถชำระได้ในแต่ละเดือนได้ 30,000 x 40% = 12,000 บาท
  • และเราสามารถกู้ได้  (12,000 – 5,000) x 150 = 1,050,000 บาท
จะเห็นได้ว่าถ้าเรามีเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 บาทและค่าส่งรถอีกเดือนละ 5,000 บาท เราจะสามารถขอกู้ธนาคารซื้อบ้านได้ถึง 1,050,000 บาทเลยทีเดียว

และถ้าหากใครที่ขี้เกียจคิดคำนวณ อยากรู้เร็วว่ามี เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่ เราก็มีตารางเปรียบเทียบปริมาณเงินเดือนกับปริมาณเงินที่เราสามารถกู้ได้ โดยคิดที่ DSR 40% มีระยะเวลาสัญญา 30 ปี และไม่มีภาระทางการเงินอื่นๆเลยดังนี้

เงินเดือน
วงเงินที่สามารถกู้ซื้อบ้านได้
20,000
1,200,000
30,000
1,800,000
40,000
2,400,000
50,000
3,000,000
60,000
3,600,000
100,000
6,000,000
150,000
9,000,000
ซึ่งวงเงินกู้ในส่วนนี้ที่คำนวณจากรายได้หรือรายรับของเรา เรายังมีเทคนิคในการเพิ่มวงเงินในส่วนนี้อีกดังนี้
  • หารายได้เสริม
การหารายได้เสริมหรือหาอาชีพเสริม ก็นับว่าเป็นเงินที่ได้รับเหมือนกัน โดยจะสามารถเพิ่มวงเงินการกู้ให้เราได้ไม่น้อยเลยล่ะ โดยต้องมีการระบุที่มาของรายได้ด้วยนะและถ้าจะให้ดี จะต้องมีการเสียภาษีเพิ่มเข้ามาด้วย ถึงจะทำให้ดูน่าเชื่อถือที่สุด
  • ค่าสวัสดิการต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์ ค่าโรงแรมที่พัก ค่าเดินทาง และอื่นๆอีกมากมาย ที่ทางบริษัทจัดไว้ให้สำหรับพนักงาน ซึ่งเงินในส่วนนี้เราสามารถคิดรวมกับเงินเดือนของเราได้เลย ฉะนั้นแล้วใครที่มีสวัสดิการเยอะๆ ก็ไม่ควรมองข้ามในส่วนนี้ไป
  • ค่าคอมมิชชั่น
สำหรับอาชีพที่มีค่าคอมมิชชั่นอย่างเช่นเหล่าพนักงานขาย ซึ่งอาชีพเหล่านี้มักจะมีฐานเงินเดือนที่น้อย แต่ว่าจะมีค่าคอมมิชชั่นที่สูง ก็สามารถนำไปรวมเข้ากับเงินเดือนเพื่อเพิ่มวงเงินในการกู้ได้ โดยคำนวณจากค่าคอมมิชชั่นในหนึ่งปีที่ได้รับ แล้วก็มาเฉลี่ยว่าในหนึ่งเดือนว่าเราจะมีค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มวงเงินในการกู้แล้ว


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงการนำร่องของ EEC  . EEC จะมีส่วนในการพัฒนาเมืองและแหล่งท่องเที่ยวให้พร้อมในการอยู่อาศัย พักผ่อน และประกอบธุรกิจ มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีความทันสมัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่เดิมและผู้ที่จะเข้ามาลงทุนใหม่ ภายใต้การลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชน ด้วยวงเงินประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท . ในการผลักดัน โครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก ให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยEEC ได้นำร่องโครงการขนาดใหญ่เพื่อเป็นรากฐานและกระตุ้นเศรษฐกิจ ในร่วมมือในการพัฒนาจากหลายภาคส่วนโดยมีโครงการนำร่องดังนี้ พัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติหลักแห่งที่ 3 ของไทย 200,000 ล้านบาท . • สร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) 158,000 ล้านบาท • รถไฟทางคู่เชื่อมแหล่งอุตสาหกรรมกับท่าเรือ 64,300 ล้านบาท • พัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง 88,000 ล้านบาท • พัฒนาท่าเรือมาบตาพุด 10,150 ล้านบาท • ก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง 35,300 ล้านบาท • พัฒนาเมืองในจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา 400,000 ล้านบาท • ลงทุนด้านการท่องเที่ยว 200,000 ล้านบาท • พัฒนาเขตนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและลงทุนกับอุตสาหกรรมเ...
EEC คืออะไร?… หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า EEC คืออะไร เกี่ยวข้องอะไรกับภาคเศรษฐกิจอย่างไร  EEC ย่อมาจาก Eastern Economic Corridor โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก . เป้าหมายหลัก ของ EEC คือการเติมเต็มภาพรวมในการส่งเสริม การลงทุนซึ่งจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและทำให้ เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาว โดยในระยะแรกจะเป็นการยกระดับพื้นที่ในเขต 3 จังหวัดคือ ชลบุรี, ระยอง, และ ฉะเชิงเทรา . EEC จะมีส่วนในการพัฒนาเมืองและแหล่งท่องเที่ยวให้พร้อมในการอยู่อาศัย พักผ่อน และประกอบธุรกิจ มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีความทันสมัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่เดิมและผู้ที่จะเข้ามาลงทุนใหม่ . กลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จาก EEC นั้นมีหลากหลายกลุ่มหนึ่งในนั้นที่สำคัญคืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Tourism) จัดระเบียบและส่งเสริมกิจกรรมหลากหลายตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ . ทำให้ปัจจุบัน มีการลงทุนในพื้นที่ของ EEC มากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านอุตสาหกรรมและการลงทุนด้านการท่องเที่ยว เพื่อเปิดพื้นที่เศรษฐกิจทำเงินแห่งใหม่ ทำใ...

ขายดาวน์ Navara Residence ( ณ วรา เรสซิเดนซ์ ) คอนโดน่าลงทุน โซนปทุมวัน ปี2018-2025

ขายดาวน์ Navara Residence ( ณ วรา เรสซิเดนซ์ )   คอนโดหรูน่าลงทุน โซนปทุมวัน กทม ปี2018-2025 “ณ วรา เรสซิเดนซ์” คอนโดมิเนียมฟรีโฮลด์ บนสุดยอดทำเลใจกลางเมืองตรงข้ามโรงเรียนมาแตร์เดอี ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีชิดลม เดินเพียง 3 นาทีหรือ 200 เมตรเท่านั้น อสังหา A++ ลิสต์ ควรค่าแก่การลงทุน ติด BTS ชิดลม   สุดยอดทำเลใจกลางเมืองไข่แดงของจริง บน ถนน หลังสวน ชิดลม   โซนที่ดินที่แพงที่สุดในประเทศไทย High Value of Capital Gain  ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 46 ตรม.   ชั้น 2 At Corner ห้องมุมที่มีความเป็นส่วนตัว   ห้องแบบพิเศษ Special Type มีเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น   เป็นห้องที่มีผนังปูนและประตูกั้นช่วยสร้างความเป็นสัดส่วน   ซึ่งคุ้มค่ากว่าเพราะห้องอื่นเป็นแค่กระจกใส   ห้อง 1 ห้องนอน   ราคา 11.49 ลบ.   ซื้อตอนนี้ ธนาคารให้วงเงินได้ 100% และปล่อยเช่าได้เรทมากกว่าที่ผ่อนธนาคาร   โครงการจะสร้างแล้วเสร็จ เดือน พฤศจิกายน 2561   รายละเอียดเพิ่มเติม   - เดินเพียง 200 เมตร จาก BTS ชิดลม   ...